ยาสีฟันสมุนไพรในปัจจุบันมีการผสมผสานทั้งสมุนไพรไทย สมุนไพรเทศและสารที่ออกฤทธิ์บำรุงรักษาช่องปากได้อย่างหลากหลายและมากมายทั้งมีเนื้อยารสมิ้นเย็นซ่า ผสมน้ำยาบ้วนปากแบบยาสีฟันทูอินวัน ขจัดปัญหาฟันเหลือง ปากเหม็นด้วยการลดแบคทีเรียมากกว่า 97% หินปูน บางยี่ห้อยังสามารถช่วยขจัดคราบเหลืองที่ติดเหล็กดัดฟันอยู่ได้อีกด้วย วันนี้ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันว่าปัจจุบันสมุนไพรแต่ละชนิดที่มีการนำมาใส่ไว้ในยาสีฟันออกฤทธิ์ด้านใน ทำหน้าที่สำคัญอย่างไรในช่องปากของผู้ใช้บ้าง ติดตามไปพร้อม ๆ กันได้เลย
ยาสีฟันสมุนไพรคืออะไร ดีกว่ายาสีฟันทั่วไปอย่างไร
ยาสีฟันสมุนไพรคือยาสีฟันที่ส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติหรือที่เรียกว่า FOOD GRADE ผู้ใช้ยาสีฟันประเภทนี้สามารถวางใจได้ว่าภายในช่องปากจะปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น สารประเภททำให้เกิดฟองหรือ SLS เป็นต้น ซึ่งเป็นข้อดีของการเลือกใช้ยาสีฟันสมุนไพร ปกติยาสีฟันทั่วไปจะมีประกอบของสารเคมีหรือสารสังเคราะห์เป็นจำนวนมากตั้งแต่สารทำความสะอาด กันบูด แต่งสี แต่งรสและแต่งกลิ่นพร้อมด้วยตัวยายาฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ส่วนผสมประเภทสารเคมีสังเคราะห์เหล่านี้มีโอกาสส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาวได้
ตัวอย่างสมุนไพรที่ใส่ในยาสีฟันวันนี้ทำหน้าที่อย่างไร
ปัจจุบันสมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักในยาสีฟันแต่ละยี่ห้อมีการสร้างส่วนผสมที่แตกต่างกันแต่ทั้งนี้ในความแตกต่างสมุนไพรมีสรรพคุณเหมือนกัน การใช้ตัวเลือกที่แตกต่างจึงขึ้นอยู่กับความต้องการในการสร้างความแปลกใหม่ ราคาวัตถุดิบที่ถูกกว่าและสถานที่ตั้งของฐานผู้ผลิต ในพื้นที่มีสมุนไพรบางประเภทเกิดขึ้นและเจริญเติบโตได้ดีกว่า ตัวอย่างสมุนไพรที่ถูกนำมาเป็นส่วนผสมของยาสีฟัน เช่น
- ใบสาระแน ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นและลดอาการอักเสบ
- ใบฝรั่ง ระงับกลิ่นปาก บรรเทาอาการปวดอาการเหงือกบวม
- ชาเขียว ลดแบคทีเรีย ลดความเป็นกรดของน้ำลาย ขจัดจุลินทรีย์ในช่องปาก
- ลูกพลับญี่ปุ่น ลดแบคทีเรีย ระงับกลิ่นปาก
- ว่านหางจระเข้ ลดอาการระคายเคือง ลดอาการช่องปากและเหงือกอักเสบ
- คาโมมายด์ ลดอาการอักเสบของเหงือกและฟัน รักษาแผลในปาก
- วิตามินซี ป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟันและแผลภายในช่องปาก
นอกเหนือจากนี้แล้วสมุนไพรไทยสมุนไพรเทศและสารตั้งต้นจากธรรมชาติอื่น ๆ ที่ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบของยาสีฟันยังมีอีกหลายประเภท เช่น ก้านพลู, สะเดา, น้ำผึ้ง, มะขามป้อม, โหระพา เป็นต้น
ยาสีฟันสมุนไพรที่ผลิตจำหน่ายในประเทศไทย
สำหรับยาสีฟันสมุนไพรในประเภทไทยเจ้าแรกที่มีการผลิตและออกวางจำหน่ายด้วยสูตรต้นตำรับได้แก่ยาสีฟันตรานกไทย 5 ดาว 4 เอ ปัจจุบันมีการพัฒนาต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันมีการพัฒนาเนื้อยาสีฟันสมุนไพรให้อยู่ในรูปแบบของเจลนาโน ไม่ผสมแป้งช่วยลดกลิ่นปากและมีคุณสมบัติทั่วไปของยาสีฟันอีกด้วย ทั้งนี้การพัฒนาของยาสีฟันสมุนไพรให้มีเนื้อยาใกล้เคียงกับยาสีฟันทั่วไปก็เพื่อขยายฐานลูกค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ได้ง่ายกว่าเดิมนั่นเอง
สำหรับผู้ใช้จริงและอยากลองทำยาสีฟันสมุนไพรด้วยตัวเองใช้เพราะมีแหล่งสมุนไพรใกล้ตัวมากมายนั้นก็สามารถทำเองได้แนะนำให้ใช้ส่วนประกอบของเกลือ ผงฟู แคลเซียมคาร์บอเนต ตำให้ละเอียดและผสมเข้าด้วยกัน หลังจากคนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้เติมผงข่อย ก้านพลูผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อส่วนประกอบทั้งหมดถูกคนจนเข้ากันอย่างดีแล้วให้เติมน้ำมันสะระแหน่ จากนั้นตั้งพักไว้ 2-3 ชั่วโมงในตู้เย็น แนะนำให้แช่เย็นในช่องผักสดจะดีที่สุด สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกว่าสีของเนื้อยาจะเปลี่ยนสีหรือหมดอายุ
สรุปยาสีฟันสมุนไพรตัวเลือกใหม่สำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง
จากที่กล่าวมายาสีฟันสมุนไพรยุคแรก ๆ จะใช้ส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติในเปอร์เซ็นต์ที่สูงและได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเพียงบางกลุ่มเท่านั้น ปัจจุบันผู้ผลิตได้นำเอาส่วนผสมที่มีจุดเด่นของสารเคมีบางประเภทมาผสมผสานเพื่อให้สินค้าสามารถขยายกลุ่มลูกค้าได้มากและดีกว่าเดิม เช่นการเพิ่มฟลูออไรด์, สารเพิ่มฟอง, สารเพิ่มความเย็นความสดชื่นรวมถึงผสมผสานด้วยน้ำยาบ้วนปากชนิดพิเศษที่สามารถสร้างความสะอาดภายในช่องปากยาวนานและสะดวกกว่าเดิมไม่ต้องพกทั้งยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากไปพร้อม ๆ กัน